สิ่งจำเป็นในการบำรุงรักษารถยก
สิ่งสำคัญในการบำรุงรักษารถยกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับประกันการทำงานที่ราบรื่น
และรับประกันความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน โดยมีหลักสำคัญในการบำรุงรักษารถยกดังนี้
I. การบำรุงรักษารายวัน
- การตรวจสอบลักษณะที่ปรากฏ:
- ตรวจสอบรูปลักษณ์ของรถยกทุกวัน รวมถึงสี ยาง ไฟ ฯลฯ เพื่อดูความเสียหายหรือการสึกหรอที่มองเห็นได้
- ทำความสะอาดสิ่งสกปรกและสิ่งสกปรกออกจากรถยก โดยเน้นที่โครงตะเกียบบรรทุกสินค้า รางเลื่อน เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและสตาร์ทเตอร์ ขั้วแบตเตอรี่ ถังเก็บน้ำ ไส้กรองอากาศ และชิ้นส่วนอื่นๆ
- การตรวจสอบระบบไฮดรอลิก:
- ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิกของรถยกว่าเป็นปกติ และตรวจสอบสายไฮดรอลิกว่ามีรอยรั่วหรือความเสียหายหรือไม่
- ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสภาวะการซีลและการรั่วไหลของอุปกรณ์ท่อ ถังดีเซล ถังเชื้อเพลิง ปั๊มเบรก กระบอกสูบยก กระบอกสูบเอียง และส่วนประกอบอื่นๆ
- การตรวจสอบระบบเบรก:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบเบรกทำงานอย่างถูกต้อง โดยผ้าเบรกอยู่ในสภาพดีและระดับน้ำมันเบรกเป็นปกติ
- ตรวจสอบและปรับช่องว่างระหว่างผ้าเบรกและดรัมเบรกมือและเบรกเท้า
- การตรวจสอบยาง:
- ตรวจสอบแรงดันลมยางและการสึกหรอ ให้แน่ใจว่าไม่มีรอยแตกร้าวหรือมีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่
- ตรวจสอบขอบล้อว่ามีการเปลี่ยนรูปหรือไม่เพื่อป้องกันการสึกหรอของยางก่อนวัยอันควร
- การตรวจสอบระบบไฟฟ้า:
- ตรวจสอบระดับอิเล็กโทรไลต์ของแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อสายเคเบิลเพื่อดูความแน่นหนา และให้แน่ใจว่าไฟส่องสว่าง แตร และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ทำงานได้อย่างถูกต้อง
- สำหรับรถยกที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ให้ตรวจสอบระดับอิเล็กโทรไลต์และความเข้มข้นเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเหมาะสม
- ขั้วต่อยึด:
- ตรวจสอบความแน่นของส่วนประกอบรถยก เช่น โบลท์และน็อต เพื่อป้องกันการคลายตัวที่อาจนำไปสู่การทำงานผิดปกติ
- ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับบริเวณที่สำคัญ เช่น ตัวยึดโครงโช้คสินค้า ตัวยึดโซ่ สกรูล้อ หมุดยึดล้อ สกรูเบรกและกลไกบังคับเลี้ยว
- จุดหล่อลื่น:
- ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานของรถยกเพื่อหล่อลื่นจุดหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ เช่น จุดหมุนของแขนตะเกียบ ร่องเลื่อนของตะเกียบ คันบังคับเลี้ยว ฯลฯ
- การหล่อลื่นช่วยลดแรงเสียดทานและรักษาความยืดหยุ่นและการทำงานตามปกติของรถยก
ครั้งที่สอง การบำรุงรักษาตามระยะเวลา
- การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง:
- ทุก ๆ สี่เดือนหรือ 500 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งานเฉพาะ) ให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทั้งสามตัว (ไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมัน และไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง)
- ช่วยให้อากาศและเชื้อเพลิงสะอาดเข้าสู่เครื่องยนต์ ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนและแรงต้านของอากาศ
- การตรวจสอบและการปรับอย่างละเอียด:
- ตรวจสอบและปรับระยะห่างของวาล์ว การทำงานของเทอร์โมสตัท วาล์วหลายทิศทาง ปั๊มเกียร์ และสภาพการทำงานของส่วนประกอบอื่นๆ
- ถ่ายและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องออกจากกระทะน้ำมัน ทำความสะอาดไส้กรองน้ำมันเครื่องและไส้กรองดีเซล
- การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย:
- ตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยของรถยกเป็นประจำ เช่น เข็มขัดนิรภัยและฝาครอบป้องกัน เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่เสียหายและมีประสิทธิภาพ
ที่สาม ข้อควรพิจารณาอื่น ๆ
- การดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน:
- ผู้ควบคุมรถยกควรปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน หลีกเลี่ยงการบังคับรถอย่างรุนแรง เช่น การเร่งความเร็วและการเบรกอย่างรุนแรง เพื่อลดการสึกหรอของรถยก
- บันทึกการบำรุงรักษา:
- จัดทำบันทึกการบำรุงรักษารถยก โดยมีรายละเอียดเนื้อหาและเวลาของกิจกรรมการบำรุงรักษาแต่ละรายการ เพื่อให้ติดตามและจัดการได้ง่าย
- การรายงานปัญหา:
- หากพบความผิดปกติหรือการทำงานผิดปกติในรถยก ให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาโดยทันที และขอให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงมืออาชีพตรวจสอบและซ่อมแซม
โดยสรุป สิ่งสำคัญในการบำรุงรักษาของรถยก ได้แก่ การบำรุงรักษารายวัน การบำรุงรักษาตามระยะเวลา การทำงานที่ได้มาตรฐาน และการเก็บบันทึกและข้อเสนอแนะ
มาตรการบำรุงรักษาที่ครอบคลุมช่วยให้รถยกมีสภาพดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัย
เวลาโพสต์: 10 กันยายน 2024